Hieronymus Bosch And Pieter Bruegel

บทความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพวาดวิถีชีวิตของ 2 ศิลปิน

Hieronymus Bosch และ Pieter Bruegel

Heironymus Bosch, Temptation of St. Anthony, Photo By https://lesfemmes-thetruth.blogspot.com

ในสมัยยุคกลางได้มีการเปลี่ยนแปลงในทวีปยุโรปอย่างมาก ทั้งเรื่องของการเมือง ศาสนา วัฒนธรรม ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะซึ่งนำไปสู่ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ซึ่งเกิดจากการล่มสลายของโรมัน การเสื่อมของโรม หรือแม้แต่การเติบโตของคอนสแตนติโนเปิล สงครามครูเสด รวมทั้งอำนาจที่มากขึ้นของศาสนจักรตามมาเป็นลำดับนั้น ทำให้คริสต์ศาสนามีความสำคัญกับสถานภาพทางสังคมอย่างมาก

ในยุคเรอเนสซองส์ จึงหมายถึงยุคของการกลับมาเกิดใหม่ของศิลปะหรือยุคแห่งการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการในยุโรป ซึ่งในยุคนี้มีศิลปินที่ทำงานศิลปะ และถ่ายทอดผลงานผ่านมุมมองของศิลปินเองได้อย่างน่าสนใจมากมาย และยังเป็นแรงขับเคลื่อนแนวความคิดและทฤษฎีใหม่ๆแก่คนรุ่นหลัง

ศิลปินในยุคนี้ มีการถ่ายทอดผลงานศิลปะของเขา พร้อมสอดแทรกข้อคิดสุภาษิต หรือแม้แต่

เรื่องตลก ขบขัน การเสียดสีผู้คนในรูปแบบที่เฉพาะตัว โดยใช้เรื่องราวของวิถีชีวิตชาวบ้านในสมัยนั้นเล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ คือ Hieronymus Bosch และ Pieter Bruegel ซึ่งศิลปินทั้งสองคนมีลักษณะการนำเสนอที่แตกต่างกัน และมีรูปแบบที่ต่างกัน แต่สิ่งที่มีคล้ายกันในผลงานศิลปะของเขาทั้งคู่

คือข้อคิด สุภาษิต คำสอน ข้อเท็จจริงที่ศิลปินต้องการจะถ่ายทอดให้กับผู้ชมโดยผ่านผลงานจิตรกรรม

Hieronymus Bosch ในสมัยดังกล่าวที่สร้างผลงานศิลปินเป็นพระ ซึ่งแสดงถึง Bosch เป็นผู้มีสติปัญญาและได้รับการศึกษา เขาจึงมีความคิดและมองเห็นโลกอย่างเป็นจริง ซึ่งในสมันนั้น ผู้ที่จะได้รับการศึกษานั้นมีเพียงชนชั้นสูง อย่างกษัตริย์ ขุนนาง นักบว ช เป็นต้น จึงทำให้คนชนชั้นล่างขาดการศึกษาและถูกเอารัดเอาเปรียบได้ ผลงานศิลปะของ Bosch จึงเป็นภาพวาดจิตรกรรมแบบเหนือจริง นำเสนอในเรื่องของนรก การกระทำผิดแล้วจะได้รับโทษ ภาพวาดของเขาจะแสดงท่าทางที่ชัดเจน อารมณ์ความรู้สึกที่แสดงออกผ่านทางสีหน้าเป็นหลัก ซึ่งผู้ชมสามารถรับรู้ได้ถึง ความสุข ความโกรธ ความเศร้าจากตัวละครได้ สถานที่ในภาพวาดของ Bosch มักเกิดจากจินตนาการของเขา ผสมผสานกับความเป็นจริง

และวิถีชีวิตในสมัยนั้น ซึ่งผลงานของ Bosch จะพูดถึงเรื่องราวของนรก การกระทำผิด และการได้รับ

ผลกรรมนั้นๆ หรือความโง่เขลาของผู้คนชั้นล่าง ในรูปแบบตลก ขบขัน และผลงานของเขาก็มี

ความแตกต่างไปจากผลงานของ Pieter Bruegel อยู่มาก

Pieter Bruegel, The Netherlandish Proverbs.

ด้านผลงานของ Pieter Bruegel ที่เป็น คาระวาท กลับถ่ายทอดข้อคิดที่น่าสนใจ โดยเป็นการเล่าเรื่องจากสถานที่ ผู้คนที่พบเห็นจริงๆ โดย Bruegel การเข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชนกลุ่มนั้นจริงๆ ก่อนจะทำการร่างภาพของเขา ดังนั้นภาพวาดจิตรกรรมของ Bruegel จึงมุ่งเน้นไปที่วิถีชีวิตชนบท และศิลปินยังสนใจ ในเรื่องของวิถีชีวิตของขอทาน กิเลสของมนุษย์ บุคคลทั่วไปที่อ่านหนังสือไม่ออก ไม่ได้รับการศึกษา

ผลงานของเขาจะนำเสนอภาพวาดที่แสดงถึงความโง่เขลาของคนกลุ่มนี้ เช่น ความเชื่อในเรื่องผี

ความงมงายในหมอผี ซึ่ง Bruegel ได้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี ด้วยภาพวาดที่เป็นเช่นเครื่องมือ

ในการบอกผู้ชม การขู่ให้เกิดความกลัว หรือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ถูกนำเสนอในภาพวาด

ที่ตลก ขบขัน พร้อมทั้งยังสอนแทรกสุภาษิตหรือคำสอน เช่น ภาพ The Netherlandish Proverbs.

ได้แทรกคำสอนจากภาพวาดของคนตาบอดที่กำลังนำทางคนตาบ อดด้วยกันเอง ซึ่งนั้นอาจนำไปสู่หายนะ และยังเป็นสิ่งที่ทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ ภาพของชายที่กำลังเอาศรีษะของตนเอง

โขกกับกำแพง ซึ่งเปรียบเสมือนการกระทำที่ไม่เกิดประโยชน์และยังทำให้เจ็บตัว ในภาพเดียวกันนี้

มีภาพของชายสองคน ที่กำลังทำท่าทางการจูงจมูกกัน ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าศิลปินต้องการจะสื่อถึง

การชักจูง โน้มนาวหลอกลวงผู้อื่นให้ทำในสิ่งที่ต้องการ การสอดแทรกคำสอน และการแสดงความโง่เขลาของชาวนา โดย Bruegel ผ่านผลงานศิลปะที่ให้ความสำคัญกับชาวนา หรือชนชั้นล่าง

และงานศิลปะของ Bosch ที่กล่าวถึงนรก ในรูปแบบเหนือจริง ที่ศิลปินใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวดังกล่าวผ่านภาพวาดจิตรกรรมในรู้แบบเฉพาะตัวนั้น สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบของหลักคำสอน

ที่มอบให้ผู้ชม ผ่านผลงานศิลปะ และในยุคสมัยดังกล่าว ผลงานศิลปะของทั่งสองคนได้ทำให้ผู้ชม

เห็นถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้นอย่างมาก

รวมทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษา ซึ่งในยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการนั้น ผู้คนชนชั้นล่าง

ที่ได้รับการศึกษาจากทางคริสต์ศาสนานั้นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าชนชั้นใด และผลงานของ Bruegel

จะสะท้อนให้เห็นถึงความโง่เขลาของชาวนาที่ชัดเจน และสมจริงมาก ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญ

ของการศึกษา และการถูกเอารัดเอาเปรียบจากชนชั้นสูงมากกว่าผลงานของ Bosch

ส่วนผลงานของ Bosch ข้าพเจ้าคิดว่าผลงานของเขาได้สะท้อนให้เห็นถึงการกระทำที่ผิดแปลกไป

จากจารีต วัฒนธรรม และผลงานยังส่งเสริมในการทำดีโดยการใช้ภาพของนรกในการขู่ให้เกิดความกลัวต่อบาป จึงไม่ทำผิดเพื่อจะหลุดพ้นการตกนรก ซึ่งผลงานของ Bosch สามารถเข้าใจและเข้าถึงได้

กับทุกชนชั้นในยุคสมัยนั้นและปัจจุบัน

เมธาวี เทศนะ