top of page
Search

Glass of Vagina

  • กวิสรา รุจิเทศ
  • Nov 24, 2017
  • 1 min read








คำว่า “สวย” ที่ผู้คนส่วนใหญ่ตีความ หรือให้คำนิยามนั้นเป็นไปตามกระแสของสังคมที่นิยมในแต่ละยุคสมัย เช่นนิยามคำว่าผู้หญิงสวยในปัจจุบันจะต้องมีผิวขาว หุ่นดี ใบหน้าเรียบเนียน ริมฝีปากได้รูป จมูกโด่ง หากแต่นิยามของคำว่าสวย (Beauty) ตามพจนานุกรม คือ งามน่าพึงพอใจ การที่คนเราจะงามอย่างน่าพึงพอใจ คงต้องประกอบด้วยหลาย ๆ อย่าง ซึ่งจะแบ่งได้เป็น 2 ข้อ คือ


1.สวยภายนอก ประกอบไปด้วย รูปหน้า ตา จมูก ปาก ผิวพรรณ ผม ศีรษะ สรีระร่างกาย ซึ่งเราจะมองว่าคน ๆ หนึ่งสวย องค์ประกอบเหล่านี้ต้องพอดีกัน ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป


2.สวยจากภายใน นั่นก็คือ นิสัยใจคอ อยู่ด้วยแล้ว

มีความสุขต้องทำความรู้จักกันสักพักจึงจะมองเห็นความสวยในส่วนนี้






แม้กระนั้นความสวยก็ยังมองได้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ประสบการณ์ สังคม และวัฒนธรรมของแต่ละคน เพราะเมื่อพูดถึงความสวยผู้คนมักจะมองกันที่รูปลักษณ์ภายนอกที่สายตามองเห็นมากกว่าใช้ใจสัมผัส จึงตัดสินออกมาว่า “สวย” โดยแท้จริงแล้วผู้หญิงสวยจะต้องมีภาพลักษณ์ภายนอกและจิตใจที่งดงามสอดคล้องกัน ซึ่งสองอย่างนี้จะเป็นตัวดึงดูดให้ผู้คนมองว่าสวย แต่แล้วการตัดสินความสวยนั้นก็ยังคงตกเป็นของผู้คนที่ใช้สัมผัสในการมองและการกลั่นกรองทางความคิดของแต่ละบุคคลทั้งสิ้น

หากกล่าวโดยทั่วไปแล้วหญิงสาวทุกคนล้วนมีความงามอยู่ในตัวเอง แม้ว่าจะมีรูปร่างหน้าตา สีผิว

หรือชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน แต่การตัดสินความงามนั้นขึ้นอยู่กับค่านิยมของคนส่วนใหญ่ในสังคม ซึ่งชักจูงให้เกิดกระแสความนิยม โดยมองข้ามความสำคัญของบุคคล(เพศหญิง)ไป ซึ่งแท้จริงแล้วผู้หญิงทุกคนล้วนมีความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน หากแต่แตกต่างกันแค่เพียงเปลือกนอกเท่านั้น และคำว่า‘แค่เพียงเปลือกนอก’นั้น ก็มีผลต่อพฤติกรรมของผู้ที่นิยมตาม กระแสของสังคม ซึ่งอาจส่งผลกระทบไปถึงหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์อยู่นอกกระแสความนิยมนี้ จนอาจสร้างปมหรือ บาดแผลภายในใจ หากแต่บางทีหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์งดงามก็อาจมีบาดแผลทางกายและใจซุกซ่อนอยู่ภายในได้เช่นกัน


ดังที่สะท้อนให้เห็นในผลงานศิลปะของ จุฑาภัทร พรหมจันทร์ ที่สร้างผลงานในรูปแบบสื่อผสม

โดยใช้แก้วไวน์ที่มีลักษณะต่างกันเข้ามาแต่งเติมด้วยน้ำสีแดงและสีน้ำเงิน ประกอบด้วยเส้นลวดทองแดงที่ดัดเป็นรูปทรงของมดลูก ประกอบกับดอกไม้ที่ปั้นจากดินไทย ซึ่งจะแสดงออกถึงความเป็นผู้หญิงมากยิ่งขึ้น โดยการจัดองค์ประกอบของศิลปินที่จัดให้แก้วแต่ละใบวางอยู่ในลักษณะที่แตกต่างกันนั้นเป็นตัวแทนของความรู้สึก หรือการกระทำของผู้หญิงแต่ละคน ซึ่งสื่อถึงผู้หญิงแต่ละประเภทที่แตกต่างกันออกไป



แก้วแต่ละใบมีความแตกต่างกัน แต่คุณสมบัติที่เหมือนกันของแก้วนั้นคือความเปราะบางที่ต้องการการทะนุถนอมเป็นอย่างมาก ความเปราะบางนี้เองที่เปรียบได้กับจิตใจของหญิงสาวที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องการการทะนุถนอม และยังเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงอวัยวะเพศหญิงอย่าง ‘มดลูก’ ที่ศิลปินได้ยกมาเปรียบเปรยได้อย่างชัดเจนถึงความเปราะบาง จะเห็นได้จากผลงานที่แสดงถึงความแตกต่างของมดลูกในแต่ละคนที่แตกต่างกันตามสรีระ และประสบการณ์เฉพาะตนที่ได้รับ สีน้ำเงินและแดงของแก้วบางใบนั้นยังสามารถที่จะสื่อถึงยามที่หญิงสาวมีรอบเดือนและในยามปกติได้อีกด้วย ซึ่งหากกล่าวกันตามความหมายของสีแล้วจะเป็นที่เข้าใจกันดีว่า สีแดงให้ความรู้สึกถึงความร้อนระอุ ความเดือดดาล ซึ่งมีความหมายไปทางแง่ลบ ส่วนสีน้ำเงินนั้นส่งผลต่อความรู้สึกถึงความนุ่มลึก สงบนิ่ง ซึ่งเป็นยามที่หญิงสาวมีจิตใจที่สงบกว่าเมื่อมีรอบเดือน ซึ่งเป็นสิ่งก่อกวนทางอารมณ์ความรู้สึกเพราะฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลง





แต่อย่างไรก็ตามความแตกต่างกันทั้งภายนอก

และภายในของหญิงสาวนี้ยังมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่คือ พวกเธอเปราะบางและต้องการการทะนุถนอม ดังนั้น อย่าให้สังคมตามกระแสนิยมนี้เป็นเครื่องตัดสินหรือชี้วัดความสวยงามเพียงตาเห็น เพราะจะส่งผลกระทบถึงจิตใจของหญิงสาวบางคน แต่ถึงแม้ว่าแก้วบางใบจะมีบาดแผล แต่สุดท้ายแล้วหญิงสาวทุกคนต่างก็ยังมีความงามเฉพาะตัวเสมอ



 
 
 

Comments


Art criticism

bottom of page